Samsung บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ออกมาเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 (เมษายน – มิถุนายน) ของปี 2021 ปรากฏว่า
บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 18% และทำกำไรเพิ่มขึ้นเฉียด 50% เมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วงเดียวกันของปี 2020 โดยสาเหตุหลักก็เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
Samsung มียอดขาย 55.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021

Samsungออกเปิดเผยว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 นั้น บริษัทมียอดขายสินค้าทั้งหมด 55.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.79 ล้านล้านบาทโดยในจำนวนนี้เป็นกำไรถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาท เพิ่มจากตัวเลขในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 ที่มียอดขายอยู่ 46.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท
และมีกำไรเพียง 7.17 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 2.3 แสนล้านบาท พูดง่าย ๆ ก็คือSamsung มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 18% และทำกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วงเดียวกันของปี 2020 นั่นเอง โดยรายงานผลกระทบการฉบับเต็มจะมีการเปิดเผยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะระบุตัวเลขผลประกอบการของแต่ละแผนกอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ Samsungระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกมีความต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและสมาร์ทโฟน ทำให้บริษัทมียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน Galgaxy S21 ซึ่งวางจำหน่ายตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 1 ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้บริษัท โดยทำสถิติเป็นสมาร์ทโฟนSamsung ที่มียอดขายมากที่สุดในรอบ 4 ปี และเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของบริษัทที่มียอดขายดีที่สุดในไตรมาสที่ 2 ด้วย

อย่างไรก็ตามSamsung คาดการณ์ว่า ในอนาคตอันใกล้ ยอดขายของบริษัทอาจไม่ได้หวือหวาเหมือนในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดขายในกลุ่มสมาร์ทโฟน เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปประมวลผล ซึ่งทำให้บริษัทจำเป็นต้องยกเลิกการผลิตสมาร์ทโฟน Galaxy Note และผลิต Galaxy S21 FE ได้ล่าช้านั่นเอง
ข่าวไฮทีออนไลน์ ที่เรานำเอาข่าวออนไลน์ทั้งข่าวสดใหม่ไม่ว่าจะเป็นข่าวในประเทศและต่างประเทศ มาให้คุณได้ติดตาม